http://pcp.ac.th

ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป

ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็ปไซต์โรงเรียนประชาบดีพิทยาคม สพม.หนองคาย โรงเรียนประชาบดีพิทยาคม

ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียน

:: ประวัติโรงเรียน

:: วิสัยทัศน์

:: สถานที่ตั้ง

:: ข้อมูลนักเรียน

:: ทำเนียมบุคลากร

:: บุคลากรกลุ่มสาระ

:: ดาว์นโหลดเอกสาร

งานระบบ SGS

งานทะเบียนวัดผลสำหรับครู

สำหรับนักเรียนและผู้ปกครอง

ระบบติดตามนักเรียนToschool

สำหรับผู้ปกครอง

สำหรับนักเรียน

ผลงานวิชาการ PA

สาระภาษาไทย

นางสราภรณ์ ภูบุตรตะ

นางอุดมสิน จันทะวงษ์ครี

นางสาวแพรพลอย สิงห์เดช

สาระคณิตศาสตร์

นายศรันย์ เคหะฐาน

นายกิตติพงษ์ สืบกินนร

นางสาวกรรณิกา วงษ์คำหาญ

สาระภาษาต่างประเทศ

นางปัสนี ดวงเกตุ

นางสาวธันย์ชนก แก้วอ้น

นายคณัสนันท์ ใจบุญ

สาระวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี

นางสาววิชยา วุฒิเป๊ก

นายกิตติพงษ์ หลานวงษ์

นางสาววริศรา มาตรา

นายพรภูมินทร์ ประพฤติ

นางสาวธนัชญา เดชสุทธิ์

นายวัชการ เจริญชัย

นางสาวอรวรรณ โคตรสวรรค์

นางสาวปัญจพร วงษ์คำหาญ

สาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม

นายฐาปกรณ์ จันทร์วิเศษ

นางสาวศุภภา สุวรรณวงษ์

นายพัฒนา พฤกษชาติ

นางสาวไอ่คำ จันทร์แหล

สาระสุขศึกษาและพลศึกษา

นายธีรดนย์ ทิมชล

สาระการงานอาชีพ

นายภูมินทร์ คำอ้อ

นายสุทธิเมธ สิงห์ทิศ

นายสมโชค เพ็งธรรม

สาระศิลปะ

นายชาคายัน จำปากุล

นายชาญชัย มะณีศรี

เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>

กรมอนามัย กระทั่งถึง แตงโมต้มน้ำตาล รักษาโรคไตมิได้ รับประทานมากมายไป เสี่ยงอ้วน

VIEW : 275

โดย ang

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 17
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 3
Exp : 36%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 27.130.125.xxx

เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 16 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 เวลา 20:49:11

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนคนประเทศไทยที่ได้รับข้อมูลที่ได้รับมาจากสื่อโซเชียล หัวข้อการนำแตงโม ต้มน้ำตาลมากินเพื่อรักษาโรคไต ไม่ใช่ความเป็นจริง ถ้าหากรับประทานมากเกินไป เสี่ยงเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และก็ฟันผุได้ เสนอแนะถ้าเป็นโรคไตควรจะขอความเห็นหมอ แล้วก็ควบคุมด้านการกินอาหารให้เหมาะสมกับร่างกายหมอกาญจน์ชัย วัฒนายิ่งรุ่งโรจน์ชัย อธิบดีกรมอนามัย เผยออกมาว่า จากกระแสข่าวที่แชร์กันอยู่ในสื่อออนไลน์ เรื่องการต้มแตงโมไฟอ่อนผสมน้ำตาล และก็ปั่นทิ้งเอาไว้ 4-5 วัน จะได้น้ำเหนียวๆเรียกว่า น้ำตาลแตงโมรับประทานทีละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง เช้าตรู่ – เย็น จะช่วยรักษาโรคไตได้ ซึ่งข้อแนะนำในประเด็นนี้ไม่เป็นความจริง อะไร นอกเหนือจากการที่จะรักษาโรคไตมิได้แล้ว การกินน้ำตาลมากจนเกินไป ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคเบาหวาน แล้วก็ฟันผุ ได้อีกด้วย ปกติคนเป็นโรคไตจำต้องควบคุมและก็จำกัดอาหารตามระยะของโรคไตเรื้อรัง อดอาหารที่มีโซเดียม โพแทสเซียม แล้วก็ธาตุฟอสฟอรัสมากมาย แล้วก็จำเป็นต้องควบคุมเรื่องการกินอาหารตามคำแนะนำของหมอแล้วก็นักระบุของกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่หรูหราโพแทสเซียมในเลือดสูง จำเป็นต้องงดเว้นรับประทานผักและก็รับประทานผลไม้ที่มีโพแทสเซียมปานกลางแล้วก็สูง ยกตัวอย่างเช่น แครอท บล็อกวัวลี ถั่วค้าง ฟักทอง มะเขือเทศ ส้มโอ องุ่น แก้วมังกร มะละกอ ส้ม ฝรั่ง แตงโม ฯลฯ ซึ่งในแตงโม 100 กรัม มีน้ำตาล 6 – 11 กรัม มีโพแทสเซียม 103 – 122 มก. แมกนีเซียม 9 – 11 มก. แล้วก็ธาตุฟอสฟอรัส 10 – 14 มก. สุดแท้แต่ประเภทของแตงโม โดยจำนวนแตงโมที่เสนอแนะต่อวัน สำหรับคนธรรมดา 8 ชิ้นเพียงพอคำหรือ 170 กรัม สำหรับคนป่วยโรคไตเรื้อรังสามารถรับประทานผลไม้วันละ 1-2 ส่วน เป็นต้นว่า แตงโม 1 ส่วนพอๆกับ 6-8 ชิ้นเพียงพอคำ แต่ว่าถ้าเป็นผู้เจ็บป่วยโรคไตเรื้อรังที่หรูหราโพแทสเซียมในเลือดสูง ควรจะงดเว้นการกินแตงโม

“ดังนี้ คนป่วยโรคไตเรื้อรังควรรอบคอบประเด็นการบริโภคของกินด้วย โดยรับประทานข้าวแป้งซึ่งเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต ไม่เกิน 6 ทัพพีต่อวัน ดังเช่นว่า ข้าวขาว วุ้นเส้น ก๊วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ สาคู ฯลฯ หลบหลีกข้าวซ้อมมือและก็ขนมปัง รับประทานเนื้อสัตว์ที่เป็นแหล่งของโปรตีน อาทิเช่น ไข่ขาว เนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อหมูไม่ติดมัน ฯลฯ รับประทานเนื้อสัตว์ไม่เกิน 7 ช้อนโต๊ะต่อวันสำหรับคนไข้ไตเรื้อรังระยะ 1-3 และไม่เกิน 5 ช้อนโต๊ะต่อวันสำหรับคนป่วยไตเรื้อรังระยะ 4-5 รวมทั้งบริโภคของกินลดหวาน มัน เค็ม โดยดื่มน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน รวมทั้งเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อวัน ทั้งยังควบคุมโซเดียม เลี่ยง น้ำปลา ซอสแต่งรส ผงชูรส ของกินดอง เนื้อสัตว์ดัดแปลงต่างๆผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ของกินที่มีธาตุฟอสฟอรัสสูง ยกตัวอย่างเช่น นม ไข่แดง ถั่ว ชา กาแฟ ฯลฯ และก็ของกินที่มีพิวรีนสูง อย่างเช่น เครื่องในสัตว์ ยอดผัก หัวใจผัก หน่อไม้ หน่อไม้ฝรั่ง ฯลฯ รวมทั้งเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกหมวดหมู่ด้วย และก็การกระทำตัวของคนเจ็บโรคไตเรื้อรังควรจะรับประทานอาหารให้ครบ 5 กลุ่ม เพื่อได้พลังงานจากของกินพอเพียง ไม่รับประทานเค็ม พักให้พอเพียง และก็ไปพบหมออย่างสม่ำเสมอ เหตุเพราะโรคจำนวนมากใช้เวลารักษานาน คนป่วยก็เลยไม่สมควรเพิ่ม ลด หยุดยา หรือซื้อยาไปรับประทานเอง เนื่องจากบางทีอาจมีอันตรายได้” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว ***

[ อ้างอิง ]